เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/26 ก็จะกลับมาลงสนามกันในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 20:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยเกมที่น่าสนใจเป็นการพบกันระหว่าง คริสตัล พาเลซ ที่จะเปิดสนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งถือเป็นการโคจรมาพบกันของสองทีมที่ต้องการสามคะแนนเพื่อสร้างความมั่นใจในช่วงต้นฤดูกาล แต่สถานการณ์ของเจ้าบ้านน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเมื่อเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บล้นทีม

ฟอร์มการเล่นล่าสุดและสถิติปัจจุบัน

จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2568 ฟอร์มของทั้งสองทีมมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

คริสตัล พาเลซ: ภายใต้การคุมทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ พวกเขามีฟอร์ม 5 นัดหลังสุดที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้ 1 ในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะเกมล่าสุด พวกเขาไม่ชนะใครมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว

• ▸
  เสมอ เชลซี 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  แพ้ คู่แข่งในยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2-3 (เหย้า)
• ▸
  เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์: ทีมเยือนมีผลงานที่ดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลาเดียวกัน โดย 5 นัดหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น เกมล่าสุดในลีกคือการเปิดบ้านถล่มเบรนท์ฟอร์ดไปอย่างสวยงาม 3-1

• ▸
  ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
• ▸
  แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

สถิติการพบกันในอดีต (H2H)

เมื่อมองไปที่สถิติการพบกันย้อนหลัง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ดูจะข่มกว่าเล็กน้อย จากการพบกันทั้งหมด 69 ครั้ง ฟอเรสต์เอาชนะไปได้ 30 ครั้ง ส่วนพาเลซชนะ 16 ครั้ง และเสมอกันไป 23 ครั้ง

หากนับเฉพาะสถิติตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ทั้งสองทีมเจอกัน 17 ครั้ง ฟอเรสต์ยังคงทำได้ดีกว่า โดยชนะไป 8 ครั้ง พาเลซชนะ 3 ครั้ง และอีก 6 ครั้งจบลงด้วยการแบ่งแต้ม ซึ่งการพบกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ก็จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ที่บ้านของพาเลซนี่เอง

ข่าวทีมและความพร้อมของนักเตะ

คริสตัล พาเลซ 🔴🔵

นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของทัพ "ปราสาทเรือนแก้ว" ในเวลานี้ พวกเขามีรายชื่อนักเตะบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว และล้วนเป็นผู้เล่นคนสำคัญแทบทั้งสิ้น

• ❌ ชีค ดูกูเร่ (เข่า): กองกลางตัวรับคนสำคัญเจ็บยาว
• ❌ ชาดิ ริยาด (เข่า): กองหลังใหม่เจ็บหนัก พักยาวถึงปี 2026
• ❌ อดัม วอร์ตัน (ศีรษะ): กองกลางดาวรุ่งมีอาการคอนคัสชั่น
• ❌ ไดจิ คามาดะ (เข่า): เพลย์เมกเกอร์ชาวญี่ปุ่นยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
• ❌ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (แฮมสตริง): กองหน้าที่เพิ่งเซ็นสัญญาก็มารับบาดเจ็บ
• ❌ มาเธอุส ฟรังก้า (กล้ามเนื้อ)
• ❌ เคเลบ คอร์ฮา (หลัง)

ข่าวดีเล็กน้อยคือ มาร์ค เกฮี และ เอเบเรชี่ เอเซ่ สองดาวเตะตัวหลักยังคงฟิตสมบูรณ์และพร้อมลงบัญชาเกม แต่การขาดหายไปของผู้เล่นถึง 7 คน ย่อมส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 🌳

ฝั่งทีมเยือนมีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนน้อยกว่ามาก

• ❌ นิโคลัส โดมิงเกซ (เข่า): กองกลางอาร์เจนไตน์เป็นรายเดียวที่ยืนยันแล้วว่าต้องพักยาว
• ❓ เจมส์ แม็คอาที และ โอมาริ ฮัทชินสัน: ยังต้องรอเช็คความฟิตก่อนเกม

ขุมกำลังหลักอย่าง มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และ คริส วู้ด ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงหลังทำ 2 ประตูในเกมล่าสุด พร้อมลงสนามทั้งหมด

วิเคราะห์แทคติกและรูปแบบการเล่น

คริสตัล พาเลซ ของกลาสเนอร์น่าจะยึดระบบ 3-4-2-1 โดยฝากความหวังไว้ที่การสร้างสรรค์เกมของ เอเบเรชี่ เอเซ่ เป็นหลัก แต่การขาด ดูกูเร่ และ วอร์ตัน ในแดนกลางจะทำให้สมดุลของทีมหายไปเยอะ และอาจเป็นจุดอ่อนให้ฟอเรสต์โจมตี

ด้านน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ น่าจะมาเล่นอย่างรัดกุมและอาศัยความได้เปรียบเรื่องสภาพทีมในการบดบี้แดนกลางของพาเลซ การให้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ มีอิสระในการเคลื่อนที่หาช่องหลังกองกลางเจ้าบ้าน และใช้ความแข็งแกร่งของ คริส วู้ด ในการพักบอลแดนหน้าจะเป็นกุญแจสำคัญในการโจมตี

บทสรุป

เกมนี้เป็นเกมที่เจ้าบ้านตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างแท้จริง การขาดผู้เล่นตัวหลักพร้อมกันหลายตำแหน่งทำให้ศักยภาพของทีมลดลงไปมาก แม้จะมีเสียงเชียร์หนุนหลังก็ตาม ในขณะที่ฟอเรสต์ดูมีความพร้อมและลงตัวกว่าในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าทีมเยือนมีโอกาสสูงที่จะบุกมาเก็บสามคะแนนกลับออกไปได้สำเร็จ