การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/26 เปิดฉากขึ้นแล้ว! วันนี้ เวลา 02:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ลีดส์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนามเอลแลนด์ โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นการประเดิมสนามนัดแรกของทั้งสองทีม ซึ่งต่างก็ต้องการเก็บสามแต้มเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่อย่างสวยหรู จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เราจะมาวิเคราะห์เจาะลึกจากสถิติที่ครอบคลุมที่สุด

ฟอร์มการเล่นล่าสุดและสถิติปัจจุบัน

ลีดส์ ยูไนเต็ด:

แม้จะเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ แต่ฟอร์มอุ่นเครื่องปรีซีซั่นของลีดส์ก็พอจะให้เห็นภาพรวมอยู่บ้าง จากข้อมูล 3 นัดล่าสุด พวกเขาจบลงด้วยผลเสมอทั้งหมด และเป็นการเจอกับทีมแกร่งจากยุโรปทั้งสิ้น:

• ▸
  เสมอ เอซี มิลาน 1-1
• ▸
  เสมอ บียาร์เรอัล 1-1
• ▸
  เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0

จากสถิตินี้จะเห็นว่าเกมรับของลีดส์ค่อนข้างเหนียวแน่น เสียไปเพียง 2 ประตูจาก 3 นัด และยิงคืนได้ 2 ประตู แต่ในทางกลับกัน เกมรุกก็ยังไม่จัดจ้านนัก อย่างไรก็ตาม การไม่แพ้ใครเลยในช่วงปรีซีซั่นก็ถือเป็นการสร้างความมั่นใจที่ดีก่อนเปิดฤดูกาล

เอฟเวอร์ตัน:

หากมองย้อนกลับไปที่ฟอร์ม 5 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว เอฟเวอร์ตันทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด เสมอ 1 และแพ้เพียงนัดเดียว:

• ▸
  ชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 (เยือน)
• ▸
  ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-0 (เหย้า)
• ▸
  ชนะ ฟูแล่ม 3-1 (เยือน)
• ▸
  เสมอ อิปสวิช 2-2 (เหย้า)
• ▸
  แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน)

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มดังกล่าวเป็นข้อมูลจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว และสถานการณ์ปัจจุบันของทีม 'ทอฟฟี่สีน้ำเงิน' ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนทีมอย่างหนัก

สถิติการพบกันในอดีต (H2H)

คู่นี้เจอกันมาอย่างยาวนานถึง 122 ครั้งในทุกรายการ และเป็น ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติข่มอยู่ชัดเจน โดยชนะไป 52 ครั้ง ส่วน เอฟเวอร์ตัน ชนะ 36 ครั้ง และเสมอกัน 34 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากมองเฉพาะสถิติ 7 นัดล่าสุด ผลการแข่งขันกลับเป็นฝั่งเอฟเวอร์ตันที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย โดยเอาชนะไปได้ 3 ครั้ง ลีดส์ชนะ 2 ครั้ง และเสมอกัน 2 ครั้ง ซึ่งนัดล่าสุดที่พบกันในสนามแห่งนี้ จบลงด้วยชัยชนะของเอฟเวอร์ตัน 1-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023

ข่าวทีมและความพร้อมของนักเตะ

ลีดส์ ยูไนเต็ด:

ข่าวร้ายของเจ้าบ้านคือจะไม่มี ยาก้า บิโยล (Jaka Bijol) ปราการหลังคนใหม่ที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในเกมนัดล่าสุดกับทีมเก่า ส่วน เจย์เดน โบเกิ้ล (Jayden Bogle) ก็ยังต้องรอเช็คความฟิตจากอาการเจ็บที่สะโพก นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นที่บาดเจ็บยาวอยู่ก่อนแล้วอย่าง หลุยส์ ซินิสเตอร์รา, สจวร์ต ดัลลัส และ ไทเลอร์ อดัมส์

เอฟเวอร์ตัน:

ฝั่งทีมเยือนเจอปัญหาหนักกว่ามาก เรียกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดย่อม จากข้อมูลล่าสุดมีผู้เล่นบาดเจ็บและไม่พร้อมลงสนามเป็นจำนวนมาก:

• ❌
  โอเรล ม็องกาล่า (Orel Mangala): เจ็บเข่า พักยาวถึงพฤศจิกายน
• ❌
  จาร์แร็ด แบรนธ์เวต (Jarrad Branthwaite): เจ็บแฮมสตริง พักถึงกลางเดือนกันยายน
• ❓
  เจมส์ แมดดิสัน (James Maddison): เพิ่งหายเจ็บเข่า ความฟิตยังไม่เต็มร้อย
• ❓
  ริชาร์ลิซอน (Richarlison): อยู่ในช่วงเรียกความฟิต

นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีกหลายรายที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น อังเดร โกเมส, เดเล่ อัลลี่, อาร์เนาต์ ดันจูม่า และ อิดริสซา เกย์ การขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะ แบรนธ์เวต ในแนวรับ และ ม็องกาล่า ในแดนกลาง จะส่งผลกระทบต่อทีมอย่างแน่นอน

วิเคราะห์แทคติกและรูปแบบการเล่น

ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ (คาดการณ์ว่า) ดาเนียล ฟาร์เค่ จะได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน และน่าจะยึดสไตล์การเล่นที่เน้นพลังงานสูง การเพรสซิ่งแดนบน เพื่อกดดันแนวรับเอฟเวอร์ตันที่สภาพไม่สมบูรณ์

ส่วนเอฟเวอร์ตันของ ฌอน ไดซ์ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาเน้นเกมรับที่รัดกุมเป็นพิเศษ และรอหาจังหวะสวนกลับเร็ว หรืออาศัยทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ แต่การขาดหายไปของผู้เล่นคนสำคัญหลายราย อาจทำให้ประสิทธิภาพทั้งเกมรุกและเกมรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สรุป

เกมเปิดสนามนัดนี้ ลีดส์ได้เปรียบทั้งการเป็นเจ้าบ้านและสภาพความพร้อมของผู้เล่นที่เหนือกว่ามาก แม้อาจจะเป็นเกมที่อึดอัด แต่ด้วยเสียงเชียร์และความได้เปรียบจากวิกฤตินักเตะบาดเจ็บของทีมเยือน เชื่อว่าทีม 'ยูงทอง' จะสามารถประเดิมสามคะแนนแรกในฤดูกาลนี้ไปได้แบบหืดจับ